บทเรียนซีรีส์พื้นฐานชีวิตคริสเตียน บทที่ 10 : พระคัมภีร์ หนังสือแห่งชีวิต
การเป็นพยาน
พระเยซูทรงเป็นพยานแก่หญิงสะมาเรียขณะที่ทรงนั่งรอสาวกที่บ่อน้ำ พระองค์เริ่มบทสนทนาจากเรื่องที่หญิงสะมาเรียกำลังทำคือการตักน้ำ
ยอห์น 4:7 มีหญิงชาวสะมาเรียคนหนึ่งมาตักน้ำ พระเยซูตรัสกับนางว่า “ขอน้ำให้เราดื่มบ้าง”
พระเยซูทรงโยงเรื่องน้ำไปสู่น้ำดำรงชีวิตคือความรอดที่มาจากชีวิตที่วางใจในพระองค์
ยอห์น 4:10 พระเยซูตรัสตอบนางว่า “ถ้าเธอรู้จักของที่พระเจ้าประทาน และรู้จักผู้ที่พูดกับเธอว่า ‘ขอน้ำให้เราดื่มบ้าง’ ก็คงจะขอจากท่านผู้นั้น และผู้นั้นก็คงจะให้น้ำดำรงชีวิตแก่เธอ”
ยอห์น 4:13-15 13พระเยซูตรัสตอบว่า “ทุกคนที่ดื่มน้ำนี้จะกระหายอีก 14แต่คนที่ดื่มน้ำที่เราจะให้กับเขานั้น จะไม่มีวันกระหายอีกเลย น้ำที่เราจะให้เขานั้นจะกลายเป็นบ่อน้ำพุในตัวเขาพลุ่งขึ้นถึงชีวิตนิรันดร์” 15นางทูลพระองค์ว่า “ท่านเจ้าคะ ขอน้ำนั้นให้ดิฉันเถิด เพื่อดิฉันจะได้ไม่กระหายอีก และจะได้ไม่ต้องมาตักที่นี่”
เราจึงเลียนแบบพระเยซูและมีความกล้าหาญที่จะยอมรับพระคริสต์ต่อหน้าคนทั้งปวง ประกาศเรื่องราวของพระเจ้าออกไป เป็นพยานด้วยชีวิตและประสบการณ์ของเราว่าชีวิตในทางพระเจ้ามีคุณค่าจริงๆ
มัทธิว 10:32-33 32“เพราะฉะนั้นทุกคนที่จะรับเราต่อหน้ามนุษย์ เราจะรับผู้นั้นเฉพาะพระพักตร์พระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์ 33แต่ผู้ใดจะไม่ยอมรับเราต่อหน้ามนุษย์ เราก็จะไม่ยอมรับผู้นั้นเฉพาะพระพักตร์พระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์ด้วย
ความหมายของการเป็นพยาน
การเป็นพยานคือการพูดเรื่องพระเจ้าแก่ผู้ที่ยังไม่เคยรู้จักพระองค์
คริสเตียนเป็นพยานถึงพระเยซูคริสต์ผู้ทรงเป็นพระเจ้า ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเราบนไม้กางเขน
เพื่อไถ่บาปเราและทรงฟื้นจากความตายในวันที่สาม
หากเชื่อและวางใจในพระเยซู พระองค์จะประทานชีวิตนิรันดร์ให้
1 โครินธ์ 15:3 3เพราะว่าข้าพเจ้าได้มอบเรื่องสำคัญที่สุดที่ได้รับมานั้นแก่พวกท่านคือพระคริสต์วายพระชนม์เพราะบาปของเรา ตามที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์ 4และทรงถูกฝังไว้ แล้ววันที่สามพระองค์ทรงถูกทำให้เป็นขึ้นมา ตามที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์
การเป็นพยานประกอบไปด้วย 2 อย่างคือ
1. การเป็นพยานชีวิตที่รู้จักพระเจ้าและยืนยันด้วยประสบการณ์ว่าพระเยซูเป็นพระเจ้า
2. การเป็นพยานพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์
การเป็นพยานชีวิต
การเป็นพยานชีวิตหมายถึง การเล่าถึงประสบการณ์ของเราเองที่มีต่อพระเจ้าตั้งแต่ก่อนรู้จักพระเจ้า จนมาเป็นคริสเตียนได้อย่างไร ปกติจะประกอบด้วย 3 ขั้นตอน
1. ชีวิตก่อนเป็นคริสเตียน
ภูมิหลังทั่วไปของเรา ด้านครอบครัว สภาพแวดล้อม การศึกษา ความเชื่อ ความคิด อุปนิสัย อาจจะเล่าเฉพาะภูมิหลังที่ส่งผลให้เรากลับใจมาเป็นคริสเตียนก็พอ เช่น ชอบแสวงหาความหมายของชีวิตและพบแล้วในพระเจ้า หรืออาจเป็นภูมิหลังของเราที่มีปัญหาชีวิตที่สามารถพูดได้ ความเจ็บป่วย ฯลฯ แล้วมาพบคำตอบในพระเจ้า เป็นต้น
2. เหตุการณ์ตอนกลับใจมาเป็นคริสเตียน
เราได้ยินเรื่องพระเยซูคริสต์ได้อย่างไรและเหตุใดจึงตัดสินใจรับเชื่อในพระเยซูคริสต์
3. ชีวิตหลังเป็นคริสเตียน
เราพบคำตอบในพระเจ้าอย่างไร อาจจะเล่าประสบการณ์ที่ชัดเจน เช่น ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นในเรื่องต่างๆ อย่างไร ทั้งหมดเพราะได้มีโอกาสรู้จักพระเจ้าและพระเจ้าเป็นผู้เปลี่ยนแปลงเรา
การเป็นพยานพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์
พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ เป็นการพูดถึงความดีงามของพระเยซูทรงกระทำเพื่อไถ่บาปเรา การเป็นพยานพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ เป็นหัวใจสำคัญของการเป็นพยาน การเป็นพยานในส่วนที่ 2 นี้จะขาดไม่ได้ พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ที่มาตายไถ่บาปเรา ซึ่งมีขั้นตอน 6 ประการต่อไปนี้คือ
1. พระเจ้าคือใคร
กล่าวถึงพระลักษณะของพระเจ้า เช่น ทรงเป็นพระผู้สร้างสูงสุด (รม.1:20) ทรงบริสุทธิ์ และยุติธรรม (1 ปต.2:22) ทรงเต็มไปด้วยความรัก (1 ยน.4:8)
2. มนุษย์
โดยกล่าวโยงจากลักษณะของพระเจ้าที่เป็นผู้สร้างสูงสุดว่าได้เป็นผู้สร้างมนุษย์ขึ้น และสร้างอย่างมีเสรีภาพในการตัดสินใจ มนุษย์ทุกคนจึงมีสิทธิ์ในการตัดสินใจที่จะเลือกทำดีก็ได้หรือทำชั่วก็ได้ เพราะพระเจ้าสร้างมนุษย์มาให้มีเสรีภาพ และมนุษย์ทุกคนได้ตัดสินใจเลือกทำบาปโดยตัวของเขาเอง
โรม 3:23 เพราะว่าทุกคนทำบาป และเสื่อมจากพระสิริของพระเจ้า
3. เล่าถึงบาปและผลของบาป
โรม 6:23 เพราะว่าค่าจ้างของบาปคือความตาย แต่ของประทานจากพระเจ้าคือชีวิตนิรันดร์ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา
มนุษย์จึงอยู่ในสภาพที่หมดหวัง และไม่สามารถช่วยตัวเองได้
4. ความหวังที่มาทางพระเยซู
โรม 5:6-8 6ขณะเมื่อเรายังขาดกำลัง พระคริสต์ก็ได้ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อช่วยคนบาปในเวลาที่เหมาะสม 7ไม่ใคร่จะมีใครตายเพื่อคนตรง แต่บางทีจะมีคนอาจตายเพื่อคนดีก็ได้ 8แต่พระเจ้าทรงสำแดงความรักของพระองค์แก่เราทั้งหลาย คือขณะที่เรายังเป็นคนบาปอยู่นั้น พระคริสต์ได้ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเรา
5. พระเยซูทรงรับบาปโทษแทนเราหมดแล้วที่กางเขน
1 โครินธ์ 15:3-4 3เพราะว่าข้าพเจ้าได้มอบเรื่องสำคัญที่สุดที่ได้รับมานั้นแก่พวกท่านคือพระคริสต์วายพระชนม์เพราะบาปของเรา ตามที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์ 4และทรงถูกฝังไว้ แล้ววันที่สามพระองค์ทรงถูกทำให้เป็นขึ้นมา ตามที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์
6. เชิญชวนให้เชื่อวางใจในพระเยซู
โรม 10:9-10 9คือว่าถ้าท่านจะยอมรับด้วยปากของท่านว่าพระเยซูทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า และเชื่อในใจว่า พระเจ้าได้ทรงให้พระองค์เป็นขึ้นมาจากความตาย ท่านจะรอด 10เพราะว่าการเชื่อด้วยใจก็นำไปสู่ความชอบธรรม และการยอมรับด้วยปากก็นำไปสู่ความรอด
การเชื่อวางใจในพระคริสต์เท่านั้นที่จะช่วยให้เรารอดจากบาปได้ คำอธิษฐานต่อไปนี้เป็นเพียงแต่วิธีง่ายๆ ในการแสดงออกต่อพระเจ้าว่าเราเชื่อในพระองค์ อย่าลืมว่าท่าทีที่เชื่อวางใจในพระเจ้าเป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่า ให้เราเชิญชวนให้ผู้ที่พร้อมและตระหนักอย่างแท้จริงว่าต้องการพระเยซูให้ค่อยๆ อธิษฐานตามเราทีละโยค
“ข้าแต่พระเจ้า ขอพระเจ้าอวยพรและคุ้มครองข้าพเจ้า ข้าพเจ้ารู้แล้วว่าข้าพเจ้าเป็นคนบาป ข้าพเจ้าเชื่อว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระเจ้า ทรงรับบาปผิดแทนข้าพเจ้าบนไม้กางเขน ขอพระเยซูทรงเสด็จเข้ามาในใจของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอเชื่อและไว้วางใจในพระองค์ ข้าพเจ้าอธิษฐานด้วยความจริงใจ ในพระนามพระเยซูคริสต์ อาเมน”
การเป็นพยานคือการพูดเรื่องพระเจ้าแก่ผู้ที่ยังไม่เคยรู้จักพระองค์
คริสเตียนเป็นพยานถึงพระเยซูคริสต์ผู้ทรงเป็นพระเจ้า ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเราบนไม้กางเขน
เพื่อไถ่บาปเราและทรงฟื้นจากความตายในวันที่สาม
หากเชื่อและวางใจในพระเยซู พระองค์จะประทานชีวิตนิรันดร์ให้
ผู้เขียน: อจ. ดร.กนก ลีฬหเกรียงไกร