บทเรียน ซีรีส์พื้นฐานชีวิตคริสเตียน บทที่ 2 : รู้จักพระเจ้า
รู้จักพระเจ้าของเรา
พระลักษณะพระเจ้าผู้ทรงเป็นตรีเอกานุภาพ
พระเจ้าคาดหวังให้เราเป็นพระฉายสะท้อนภาพของพระองค์
อ้างอิง
ยอห์น 1:1-4 1ในปฐมกาลพระวาทะทรงดำรงอยู่ และพระวาทะทรงอยู่กับพระเจ้า และพระวาทะทรงเป็นพระเจ้า 2ในปฐมกาลพระองค์ทรงอยู่กับพระเจ้า 3พระเจ้าทรงสร้างสรรพสิ่งขึ้นมาโดยพระวาทะ ในบรรดาสิ่งที่เป็นอยู่นั้น ไม่มีสักสิ่งเดียวที่เป็นอยู่นอกเหนือพระวาทะ 4พระองค์ทรงเป็นแหล่งชีวิต และชีวิตนั้นเป็นความสว่างของมนุษย์
พระเจ้าทรงเป็นผู้สร้างสรรพสิ่ง พระเยซูในตอนนี้ถูกกล่าวถึงในชื่อของพระวาทะ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าและเป็นผู้สร้างสรรพสิ่ง พระเจ้าทรงเป็นแหล่งชีวิต และชีวิตเป็นความสว่างของมนุษย์
การมาเป็นคริสเตียน คือการกลับมามีความสัมพันธ์กับพระเจ้าใหม่อีกครั้งในฐานะที่พระเจ้าทรงเป็นพระบิดา และเราทั้งหลายเป็นบุตรของพระองค์ ผู้ได้รับการช่วยกู้โดยพระโลหิตของพระเยซูคริสต์ที่ทรงจ่ายราคาเป็นค่าไถ่เราออกจากความบาป และพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ลงมาสถิตอยู่กับเรา วิถีชีวิตคริสเตียนจึงเริ่มต้นโดยพระเจ้าและดำเนินต่อไปด้วยการรู้จักพระเจ้ามากขึ้นเรื่อยๆ ตลอดชีวิตของเรา
อ.เปาโลเขียนไว้ในคำอธิษฐานเผื่อพี่น้องคริสเตียนที่เมืองเอเฟซัสเพื่อให้เขารู้จักพระเจ้ามากขึ้นว่าทรงเป็นพระเจ้าที่มองเห็นคุณค่า ทรงประทานความรอด ประทานมรดก ทรงเป็นพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่สูงสุดเหนือภูตผีวิญญาณชั่วและเหนือนามทั้งปวง
เอเฟซัส 1:18-20 18ขอให้ตาใจของพวกท่านสว่างขึ้น เพื่อจะได้รู้ว่าพระองค์ประทานความหวังอะไรแก่ท่านในการทรงเรียกพวกท่านนั้น และรู้ว่ามรดกที่มีศักดิ์ศรีของพระองค์สำหรับพวกธรรมิกชนนั้นบริบูรณ์เพียงไร 19และรู้ว่าฤทธานุภาพของพระองค์ยิ่งใหญ่มากมายเพียงไรสำหรับเราที่เชื่อนั้น เป็นฤทธิ์เดชเดียวกับการทำกิจอันทรงอานุภาพและทรงพลังของพระองค์ 20ซึ่งทรงทำในพระคริสต์เมื่อทรงทำให้พระคริสต์เป็นขึ้นจากตาย และทรงให้ประทับที่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระองค์ในสวรรคสถาน
ในจุดเริ่มต้นของชีวิตคริสเตียน พระเจ้าทรงเป็นผู้ประทานความรอด พระเยซูทรงสิ้นพระชนม์เพื่อบาปของเรา และทรงสถิตในใจของเรา แต่พระเจ้าของเราเป็นมากกว่านั้น หากเรารู้จักพระเจ้ามากขึ้น เราจะยิ่งซาบซึ้งในความรักความห่วงใยของพระองค์ที่มีต่อเรามากขึ้น และเราจะมีมุมมองใหม่ในการดำเนินชีวิตกับพระเจ้าได้ดียิ่งขึ้นตลอดชีวิตแห่งความเชื่อของเรา
พระลักษณะพระเจ้าผู้ทรงเป็นตรีเอกานุภาพ
พระเจ้าทรงสัมพันธ์กับเราในพระลักษณะที่แตกต่างกันในวาระและเวลาต่างๆ พระลักษณะของพระเจ้าหรือสภาพของพระเจ้าที่ทรงโปรดสำแดงแก่เรามี 3 ลักษณะด้วยกันเรียกว่า “ตรีเอกานุภาพ” หรือ “Trinity”
“ตรีเอกานุภาพ” เป็นศัพท์ที่บัญญัติขึ้น เพื่อง่ายต่อการที่เราทั้งหลายจะสามารถเข้าใจพระลักษณะของพระเจ้า โดยอธิบายสภาพความเป็นพระเจ้าเดียว แต่ทรงสภาพในความเป็นบุคคลคือพระบิดา พระบุตรหรือพระเยซูคริสต์ และพระวิญญาณบริสุทธิ์
- The Father is God พระบิดาทรงเป็นพระเจ้า
- The Son is God พระบุตรคือพระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระเจ้า
- The Holy Spirit is God พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเป็นพระเจ้า
- God is the Father พระเจ้าทรงเป็นพระบิดา
- God is the Son พระเจ้าทรงเป็นพระบุตรคือพระเยซูคริสต์
- God is the Holy Spirit พระเจ้าทรงเป็นพระวิญญาณบริสุทธิ์
- The Father is not the Son พระบิดาไม่ได้ทรงเป็นพระบุตร
- The Father is not the Holy Spirit พระบิดาไม่ทรงเป็นพระวิญญาณบริสุทธิ์
- The Son is not the Father พระบุตรไม่ทรงเป็นพระบิดา
- The Son is not the Holy Spirit พระบุตรไม่ทรงเป็นพระวิญญาณบริสุทธิ์
- The Holy Spirit is not the Father พระวิญญาณบริสุทธิ์ไม่ทรงเป็นพระบิดา
- The Holy Spirit is not the Son พระวิญญาณบริสุทธิ์ไม่ทรงเป็นพระบุตร
คำว่า “ตรีเอกานุภาพ” นี้มาจากคำ 3 คำด้วยกันคือ “ตรี” แปลว่า สาม “เอกา” แปลว่า หนึ่ง และ “นุภาพ” แปลว่าสภาพ เมื่อรวมทั้ง 3 คำนี้เป็นคำเดียวกันจึงหมายถึง พระเจ้าเที่ยงแท้องค์เดียวที่สำแดงพระองค์ในลักษณะ 3 บุคคล โดยแต่ละลักษณะมีความเป็นพระเจ้าเท่าเทียมกัน ทรงเป็นพระเจ้าที่อยู่ร่วมกันมาตั้งแต่นิรันดร์ ทรงแสดงบทบาทหน้าที่ที่แตกต่างกันไปตามพระลักษณะความเป็นบุคคลที่สำแดงออกมา พระเจ้าในลักษณะของตรีเอกานุภาพจึงไม่ใช่พระเจ้า 3 องค์ แต่ทรงเป็นพระเจ้าเดียว และพระลักษณะตรีเอกานุภาพนี้ ได้สำแดงให้เราเห็นตั้งแต่ยุคพระคัมภีร์เดิม ยุคพระคัมภีร์ใหม่จนถึงในยุคปัจจุบัน
พระลักษณะของพระเจ้าที่เรียกว่าตรีเอกานุภาพ
จึงสรุปได้ว่าทรงเป็น “พระเจ้าเดียว แต่ทรงสภาพเป็น 3 บุคคล”
พระคัมภีร์บางข้อที่ช่วยให้เราเข้าใจพระลักษณะของพระเจ้าผู้ทรงเป็นตรีเอกานุภาพ คือพระเจ้าเดียว แต่ทรงสภาพเป็น 3 บุคคล
เฉลยธรรมบัญญัติ 6:4 โอ คนอิสราเอล จงฟังเถิด พระยาห์เวห์ พระยาห์เวห์เท่านั้นทรงเป็นพระเจ้าของเรา
ในเหตุการณ์ที่พระเยซูทรงรับบัพติศมาในน้ำเราจะพบว่าพระเจ้าใน 3 สภาพทรงปรากฏพระองค์พร้อมๆ กัน
มัทธิว 3:16-17 เมื่อพระองค์ทรงรับบัพติศมาแล้วก็เสด็จขึ้นจากน้ำ และในทันใดนั้นฟ้าก็แหวกออก และพระองค์ทรงเห็นพระวิญญาณของพระเจ้าเสด็จลงมาดุจนกพิราบสถิตบนพระองค์ และนี่แน่ะ มีพระสุรเสียงตรัสจากฟ้าสวรรค์ว่า “ท่านผู้นี้เป็นบุตรที่รักของเรา เราชอบใจท่านมาก”
พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเป็นพระเจ้าและทรงสถิตอยู่กับเรา
โรม 8:9 ถ้าพระวิญญาณของพระเจ้าสถิตอยู่ในพวกท่านแล้ว ท่านก็ไม่อยู่ในเนื้อหนัง แต่อยู่ในพระวิญญาณ ใครไม่มีพระวิญญาณของพระคริสต์ คนนั้นก็ไม่เป็นของพระองค์
ฉะนั้นโดยสรุปแล้วพระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าเดียวแต่ทรงมีสภาพเป็น 3 บุคคล ซึ่งหากเราพิจารณาดูพระราชกิจของพระองค์[2]จะสามารถอธิบายได้ดังนี้ คือ
- พระบิดา (God the Father is the Creator) ทรงเป็นพระผู้สร้างสรรพสิ่งทั้งหลายในโลกนี้ พระราชกิจของพระองค์ทรงปรากฏอย่างชัดเจนตลอดพระคัมภีร์โดยเฉพาะพระคัมภีร์เดิม
- พระบุตร (God the Son is the Savior) ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงเสด็จลงมารับสภาพเป็นมนุษย์ทรงพระนามว่าพระเยซูคริสต์ พระองค์มาเพื่อไถ่มนุษย์ให้รอดพ้นจากการพิพากษาเพราะบาป ให้ทุกคนที่เชื่อได้รับชีวิตใหม่ มีชีวิตนิรันดร์ และได้รับการยกฐานะให้เป็นบุตรของพระเจ้า
- พระวิญญาณบริสุทธิ์ (God the Holy Spirit is the Sanctifier) ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงประทานชีวิตนิรันดร์ และการชำระให้บริสุทธิ์ ทรงเป็นพระผู้ช่วย ที่สถิตอยู่ในผู้ที่เชื่อทุกคน
ในความจำกัดของมนุษย์ เราต้องยอมรับว่าเราไม่อาจจะเข้าใจความเป็นพระเจ้าได้ทั้งหมดอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ เราเพียงพยายามเข้าใจ “เท่าที่พระเจ้าทรงสำแดงพระองค์แก่เรา” ซึ่งนั่นก็เพียงพอในการเดินติดตามพระเจ้าได้อย่างแน่นอน
พระเจ้าคาดหวังให้เราเป็นพระฉายสะท้อนภาพของพระองค์
เราทั้งหลายถูกสร้างขึ้นในพระฉายของพระเจ้า (Image) เป็นผู้ที่สะท้อนภาพพระลักษณะของพระเจ้า ไม่มีสิ่งทรงสร้างไหนเลยที่ถูกสร้างตามพระฉายของพระเจ้า
พระฉายของพระเจ้าไม่ใช่รูปร่างภายนอกที่เหมือนพระเจ้า เพราะพระเจ้าทรงเป็นเหนือกว่ารูปร่างภายนอก หรือไม่ใช่ฤทธิ์อำนาจไม่จำกัดแบบพระเจ้า แต่พระฉายนั้นเป็นคุณลักษณะชีวิตของเราที่สะท้อนให้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า เพื่อพระเจ้าจะทรงได้รับเกียรติผ่านชีวิตของเราที่สะท้อนออกมาอย่างถวายเกียรติพระเจ้าเสมอ
พระเจ้าทรงมีพระลักษณะอะไรที่ทรงคาดหวังให้เราเป็นและสะท้อนออกไปจากชีวิตเราสู่คนภายนอก
พระเจ้าทรงบริสุทธิ์
วิวรณ์ 4:8 สิ่งมีชีวิตทั้งสี่นั้น แต่ละตนมีปีกหกปีก และมีตาอยู่รอบๆ และข้างในเต็มไปหมด และพวกเขาร้องตลอดวันตลอดคืนไม่ได้หยุดเลยว่า “บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ องค์พระผู้เป็นเจ้าคือพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด ผู้ทรงเคยเป็นอยู่ ผู้ทรงเป็นอยู่ และผู้ที่จะเสด็จมา”
ความบริสุทธิ์ของพระเจ้าตรงข้ามกับความบาป ชีวิตคริสเตียนเป็นชีวิตที่พระเจ้าทรงคาดหวังให้เราอยู่ในความสว่าง เปลี่ยนแปลงชีวิต ละทิ้งความบาปทั้งสิ้น ดำเนินชีวิตติดตามพระเจ้าในความบริสุทธิ์ชอบธรรม
พระเจ้าทรงยุติธรรม ขณะเดียวกันก็ทรงรักเรา
พระเจ้าทรงพิพากษาเมื่อมนุษย์ทำบาป มนุษย์ทุกคนจึงขาดจากพระสิริพระเจ้า และต้องถูกพิพากษาในนรกบึงไฟ แต่พระเจ้าทรงสำแดงความรักอย่างมากมายโดยลงมาเป็นมนุษย์คือพระเยซูคริสต์เพื่อไถ่บาปเราโดยซื้อเรากลับมาเป็นของพระเจ้าด้วยราคาที่สูงมากคือด้วยพระชนม์ชีพของพระองค์เอง
โรม 5:8 แต่พระเจ้าทรงสำแดงความรักของพระองค์แก่เรา คือขณะที่เรายังเป็นคนบาปอยู่นั้น พระคริสต์สิ้นพระชนม์เพื่อเรา
เราในฐานะลูกของพระเจ้า เราเกลียดบาป เราดำเนินชีวิตด้วยความชอบธรรมบริสุทธิ์ด้วยกำลังจากพระเจ้า แต่เรารักคนบาป และประกาศความรอดที่มาทางพระเยซูคริสต์แก่ทุกคนด้วยใจรัก
พระเจ้าเป็นพระเจ้าแห่งการให้อภัย
พระเจ้าทรงให้อภัยการละเมิดของเรา การให้อภัยของพระองค์นั้นนำมาซึ่งขั้นตอนมากมายเต็มไปด้วยพระคุณและความเสียสละที่ยิ่งใหญ่ของพระเยซูคริสต์เพื่อเราจะรับการอภัยอย่างง่ายๆ นี่จึงเป็นพระคุณอันยิ่งใหญ่ของพระองค์คือการให้อภัยบาปเราแม้เราเป็นคนบาปซึ่งไม่สมควรแก่พระคุณอันอุดมของพระองค์ก็ตาม
เมื่อพระเจ้าทรงให้อภัยเราอย่างนี้แล้ว ให้เราให้อภัยความผิดของผู้อื่นด้วย
เอเฟซัส 4:32 แต่จงมีใจกรุณา ใจสงสาร และใจให้อภัยแก่กันและกัน เหมือนอย่างที่พระเจ้าทรงให้อภัยพวกท่านในพระคริสต์
พระเจ้าทรงสนใจเราในทุกสิ่ง
มัทธิว 6:31-33 เหตุฉะนั้นอย่ากระวนกระวายและกล่าวว่าจะเอาอะไรกิน? หรือจะเอาอะไรดื่ม? หรือจะเอาอะไรนุ่งห่ม? เพราะว่าบรรดาคนต่างชาติแสวงหาสิ่งทั้งปวงนี้ แต่ว่าพระบิดาของพวกท่านผู้สถิตในสวรรค์ทรงทราบแล้วว่าท่านต้องการสิ่งทั้งปวงนี้ แต่พวกท่านจงแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า และความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวงนี้ให้
เราจึงสามารถไว้วางใจในพระองค์และไม่ต้องใช้ชีวิตอย่างกระวนกระวายใจ
การเป็นคริสเตียนให้โอกาสแก่เราอย่างมากมายในการรู้จักพระเจ้า การรู้จักพระเจ้าช่วยให้เราเป็นเหมือนพระฉายของพระองค์มากขึ้น พระเจ้าทรงคาดหวังให้ชีวิตของเราให้ดำเนินอย่างเป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้า สำแดงพระลักษณะของพระองค์เพื่อให้พระเจ้าจะทรงได้รับเกียรติในชีวิตของเราเสมอ
อจ. ดร.กนก ลีฬหเกรียงไกร
อ้างอิง
- เอลเมอร์ แอล. ทาวน์ส. “พระนามของพระเจ้า”. กรุงเทพฯ: คริสเตียนศึกษา แบ๊บติสต์.
- จอห์น เดวิส. “เพิ่มความรู้”. กรุงเทพมหานคร: กนกบรรณสาร,
- Alister E. McGrath. “Christian Theology: An Introduction”. Oxford: Blackwell Publishing. 2001.
- William Perault. “Shield of the Trinity”.
[1] The Athanasian Creed
[2] Trinity as functional modalism